วิธีการซักหมอนให้สะอาด

วิธีซักหมอน ให้ขาวสะอาดด้วยวิธีซักแบบต่าง ๆ เรารวบรวมความรู้มาให้กันแบบฟรี ๆ

เครื่องนอนต่าง ๆ โดยเฉพาะหมอน ถือเป็นอุปกรณ์ของใช้ภายในบ้าน ที่ไม่ควรจะละเลยในเรื่องความสะอาดอย่างที่สุด เราจึงชวนคุณมา ซักหมอน คราบสกปรกสีเหลือง หรือเชื้อรา ให้กลับมาขาวเหมือนใหม่ดังเดิม เพื่อสุขอนามัยที่ดีกันคะ
หากปล่อยให้สกปรก สะสมเชื้อโรคต่างๆ ในระยะยาว ก็อาจทำให้มีปัญหาทางด้านสุขภาพตามมาได้เพราะในแต่ละวัน คุณต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง สัมผัสกับสิ่งของเหล่านี้
ทุกวันนี้เราถอดปลอกหมอนไปซักอยู่บ่อย ๆ แต่สิ่งหนึ่ง ที่ตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยได้ซักเลย นั่นก็คือ หมอน ใช่ไหมคะ นาน ๆ ทีวันไหนที่แดดดี ๆ จะได้ตากแดดสักครั้งประมาณนี้ใช่ไหมผู้ใหญ่ทุกคนและ
หมอนของเราเมื่อซื้อมาใหม่ ๆ ก็จะมีสีขาวสะอาดน่าใช้นอนมาก แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน ๆ หมอนก็จะค่อย ๆ เกิดรอยคราบสกปรก โดยเฉพาะคราบเหลือง ๆ จนทำให้ดูเก่าและไม่น่าใช้อีกต่อไป แถมยังจะมีเชื้อโรคฝังตัวอยู่อีกต่างหาก แต่ถ้าหากยังไม่ถึงเวลา ที่จะต้องเปลี่ยนหมอนใบใหม่ ก็ควรเอาหมอนใบเดิม มาทำความสะอาด ด้วยขั้นตอนและวิธีการซักดังนี้คะ

1 . ซักหมอนหลายวิธี ๆ โดยใช้มือเราเอง
( สูตรมาตรฐานทั่วไป )
ผงซักฟองอะไรก็ได้ ที่สำหรับซักมือหรือ ซักได้ทั้งมือและเครื่องซักผ้า และมีหอมกลิ่นอะไรก็ได้แล้วแต่ชอบ ที่คิดว่าใช้แล้วชอบ สะอาด ขาว หอมที่เคยใช้มา นี้คือสูตรมาตรฐานการซักมือทั่วไป สำหรับซักมือ หรือ สำหรับซักเครื่องฝาบนก็ได้
1. เตรียมหมอนที่คิดวา่จะซัก
2. นำสบู่ซักผ้ามาขูดฝอยประมาณ 1 ถ้วยตวง
3. สารฟอกขาว ½ ถ้วยตวง เบคกิ้งโซดา ½ ถ้วย ใส่น้ำร้อน ละลายผงซักฟอกให้เรียบร้อย แช่ผ้าทิ้งไว้ 20 นาที
4. ขยี้หมอนดูจนว่าคราบสกปรกหายหมดแล้ว
5. ล้างด้วยนำสะอาด

หมอนถือเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวันที่คุณจะต้องใช้อยู่ทุก ๆ วัน และที่สำคัญหมอนของคุณอาจต้องสัมผัสใบหน้าเวลานอนก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นแล้วจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่บ่อยครั้ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ

การซักหมอนจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่สำหรับวิธีการดูแลนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยสำหรับวิธีซักหมอนแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมอนยางพาราหมอนโฟม ซักหมอนเหลือง ซักหมอนขึ้นรา มีสูตรดังนี้

ซักหมอนยางพาราและหมอนโฟม เป็นหมอนที่มีหลาย ๆ คนเลือกใช้ แต่เรื่องสำคัญเลยคือเนื่องจากไม่สามารถที่จะซักได้โดยเครื่องซักผ้า เพราะฉะนั้นจึงสามารถซักได้เพียงแค่การถอดปลอกหมอนมาซักและสำหรับตัวยางพาราและโฟมสามารถทำความสะอาดได้โดยการใช้เครื่องดูดฝุ่น และหลังจากนั้นอาจจะใช้น้ำยาสูตรเฉพาะหรือพวกน้ำยาขายทั่วไป เพื่อกำจัดคราบต่าง ๆ แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่า และซับด้วยผ้าขนหนู จากนั้นจึงนำไปตากให้แห้งในร่มแดดอ่อน ๆ
หมอนขึ้นราซักแบบไหนถึงสะอาด ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่ที่จำเป็นอย่างมากที่จะต้องใส่ใจ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากการเอาหมอนนั้นมาแช่ไว้ในน้ำร้อน แล้วค่อยเติมไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) 1 ถ้วยตวง ซื้อได้ในร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป หลังจากนั้นให้ใส่น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย แล้วแช่ทิ้งไว้หลังจากนั้นค่อยเติมเบคกิ้งโซดา (Baking Soda) หรือเรียกอีกชื่อ โซเดียมไบคาร์บอเนตและให้เพิ่มน้ำส้มสายชูลงไปอีก แล้วค่อย ๆ หยดน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ต่าง ๆ สักเล็กน้อย หลังจากที่เรากำจัดเชื้อราแล้ว จึงสามารถนำไปซักได้ตามปกติ หมดกังวลเรื่องเชื้อราบนหมอนไปได้เลย
ซักหมอนเหลืองสำหรับหมอนเหลืองถือเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ก็สามารถที่จะจัดการปัญหานี้ได้ง่าย ๆ โดยการนำหมอนไปแช่ในน้ำร้อน รวมทั้งใส่ผงซักฟอก 1 ถ้วย น้ำยาล้างจานหนึ่งถ้วย ผงสารบอแรกซ์ ½ ถ้วย และควรแช่ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วจึงซักแบบปกติ หรืออาจจะปั่นจนคราบต่าง ๆ นั้นหายไป

2 . ซักหมอนด้วยเครื่องซักผ้า
อุปกรณ์เสริมหาซื้อได้ทั่วไป หรือไม่ใช้ก็ได้

1. น้ำร้อน
2. น้ำยาซักผ้า
3. ผงหรือน้ำยาล้างจาน
4. สารฟอกขาว หรือใช้สารฟอกขาวที่ผลิตจากธรรมชาติปราศจากคอรีน
5. ผงสารบอแรกซ์ หรือใช้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์
6. น้ำส้มสายชู
7. เบคกิ้งโซดา
วิธีซักหมอน : เครื่องซักผ้า
หมอนที่ทำด้วยนุ่นหรือฟองน้ำนั้นไม่ควรนำไปซัก เพราะวัสดุสองประเภทนี้ไม่ทนทานต่อเเรงปั่นจากเครื่องซักผ้า การทำความสะอาดหมอนที่ผลิตจากวัสดุสองประเภทนี้คือการนำไปตากกับแสงแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค
ตรวจสอบป้ายสัญลักษณ์การซักหมอนก่อนว่าสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้หมอนจับกันเป็นก้อนและทำให้เสียรูปทรง และตรวจสอบดูว่าหมอนชำรุดหรือไม่ และทำการซ่อมแซมก่อนนำไปซักเสมอ
ซักหมอนแยกออกจากเสื้อผ้าตัวอื่นๆ เพราะขนาดของหมอนสามารถกินเนื้อที่ในถังซักผ้า และอาจทำให้เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบและช่วยเพิ่มความหอมและคืนสัมผัสที่อ่อนนุ่มให้กับหมอนของเรา
เลือกซักหมอนด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 40-60 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพราะน้ำร้อนมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคได้ดีกว่าน้ำเย็น ดังนั้นน้ำร้อนจึงสามารถช่วยขจัดคราบเหลืองและคราบสกปรกที่ตกค้างบนหมอนให้หลุดออกได้ดีกว่า หากคุณซักหมอนด้วยเครื่องซักผ้าแบบฝาบน
เมื่อทำการซักหมอนปั่นทำความสะอาด ตั้งอัตโนมัติตามเวลาปกติของเราซักผ้าได้เลย (เครื่องใหม่ ๆ อยู่)ไม่จำเป็นต้องพลิกให้เสียเวลาเฝ้า (เครื่องรุ่นเก่าปั่นไม่แรงแล้วและไม่สามารถตีหมอนไปมาได้แล้ว)หรือพลิกก็ได้ จะทำให้หมอนสะอาดทั่วถึงดีไม่บังคับกันครับ
ควรเลือกรูปแบบการซักแบบผ้าเนื้อบาง (Delicate wash) เพื่อป้องกันไม่ให้ขนเป็ดหรือใยสังเคราะห์ที่บุไว้ภายในเสียหายหรือขาดกระเด็นออกมา อีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถทำให้หมอนนุ่มคือการใส่ลูกเทนนิสเข้าไปด้วย ลูกเทนนิสเป็นหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยสลายขนที่จับตัวกันเป็นก้อนให้ฟูฟ่องละอองฟิ้วได้ดังเดิม
หากหมอนเหลืองมากหรือมีคราบสกปรกฝังอยู่เป็นบางจุด สามารถทำการขจัดคราบโดยการใช้น้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาป้ายคราบป้ายลงบนบริเวณที่เปื้อน แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้น้ำยาซึมลงเนื้อผ้าและเข้าไปสลายคราบอย่างมีประสิทธิภาพก่อนนำไปซักในเครื่องซักผ้า ใส่น้ำยาแรงก็ควรเอาออกไว้หน่อยนะคะเพื่อไม่ให้ผ้าเสียทรงและสีเปลี่ยนไปจากเดิมมาก

3 . เกร็ดความรู้เรื่องการซักหมอน
หลาย ๆ คนมักจะสงสัยว่าการซักผ้านั้น ทำไมจึงจำเป็นที่จะต้องกำหนดอุณหภูมิน้ำในขณะที่ซักผ้า เพราะสำหรับส่วนใหญ่ในการซักผ้านั้นจะใช้น้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 เซลเซียสขึ้นไป เนื่องจากน้ำร้อนนั้นมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากเลยทีเดียวในการกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ รวมไปถึงสามารถที่จะกำจัดในเรื่องของคราบอื่น ๆ ที่ตกค้างหรือติดอยู่ได้อีกมากมาย ดังนั้นแล้ววิธีนี้จึงเป็นวิธีที่จะช่วยให้ซักทำความสะอาดได้เร็วมากยิ่งขึ้น

สรุป
เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับคนที่อยากมีหมอนสะอาด สามารถที่จะเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ได้ทุกสถานการณ์ โดยสามารถที่จะประยุกต์ไปตามความเหมาะสม และนอกจากนี้ก็ยังสามารถที่จะทำได้ง่าย ๆ โดยใช้อุปกรณ์เพียงแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น เพียงเท่านี้ก็สามารถทำสะอาดหมอนได้ด้วยตัวเองแล้ว ถ้าหากอยากที่จะมีหมอนที่สะอาด คุณก็ต้องหมั่นซักอยู่บ่อย ๆเพื่อที่จะทำลายสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มาเกาะอยู่ที่หมอนในทุก ๆ วันที่เรานอนนั่นเอง

ซักหมอนหรือเครื่องนอน หรือเคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยขจัดคราบสกปรกบนหมอน จบแล้วครับ…ไว้พบกันใหม่บทความหน้านะครับ

อ่านแล้วชอบบทความ Ucomfort ก็ขอฝากกด LIKE เพจด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดบทความดี ๆและสินค้าใหม่ ๆ ราคาไม่แพงอย่างที่คิด จากเรา ไว้เจอกันบทความหน้านะครับ

กลับสู่สารบัญ