ที่นอน อุปกรณ์เครื่องนอนชิ้นสำคัญที่ต้องเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ เริ่มตั้งแต่การเลือกที่นอนที่ต้องรู้หลักการเลือกอย่างถูกต้อง และต้องทดลองนอนเพื่อทดสอบความสบายก่อนที่จะตัดสินใจซื้อมาใช้งาน เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง หากซื้อมาแล้วใช้นอนได้ไม่สบายสมความตั้งใจ การจะเปลี่ยนใหม่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสบายเงินในกระเป๋าเท่าไหร่นัก และเมื่อการเปลี่ยนบ่อย ๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทำให้การดูแลรักษาจึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพื่อให้ใช้ทนใช้นาน มอบความสบายได้ยาวนานไม่น้อยกว่า 10 ปี
ซึ่งหนึ่งในวิธีดูแลที่นอนให้ใช้ได้นานและสะอาดเหมือนใหม่อยู่ตลอดนั้นก็คือ การทำความสะอาดที่ถูกวิธี โดยคุณสามารถขจัดคราบต่าง ๆ ได้ง่ายเพียงไม่กี่นาที ช่วยเบาแรง ไม่เปลืองเวลา แถมถนอมที่นอนให้อยู่คู่คุณไปยาว ๆ อีกด้วย
เคล็ดลับขจัดคราบ ช่วยทำความสะอาดที่นอนได้เร็วสะอาดเหมือนใหม่
1. คราบของกิน
คุณเป็นคนชอบกินอะไรบนเตียงหรือเปล่า ถ้าใช่ เชื่อว่าคุณต้องกำลังประสบปัญหาคราบของกินที่หกหล่นเลอะที่นอนอยู่แน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวาน เครื่องดื่ม น้ำหวาน ชา กาแฟ คราบเหล่านี้แค่ใช้ผงซักฟอกซักแบบธรรมดาดูเหมือนจะเอาไม่ออก นำออกมาขยี้จนเหนื่อยก็ยังหลงเหลือรอยจาง ๆ ให้ได้หงุดหงิดใจ ซึ่งจริง ๆ แล้วเคล็ดลับขจัดคราบของกินนั้นง่ายนิดเดียว เพียงนำผ้าชุบน้ำเปล่าผสมสบู่ แล้วบิดให้หมาด จากนั้นนำมาเช็ดบริเวณคราบอาหารที่หกเลอะเทอะ ถูเบา ๆ ไปมาซักพัก คราบจะค่อยจางและหายไปในที่สุด
2. คราบเลือด
ปัญหาน่าเบื่อของคุณผู้หญิงที่ต้องยกที่นอนออกมาซักตากเป็นประจำเกือบทุกเดือน หรือคุณผู้ชายที่ไม่ค่อยระมัดระวังจนอาจมีบาดแผลแบบไม่รู้ตัว เมื่อมาล้มตัวลงนอน ก็อาจทำให้ที่นอนของคุณเปื้อนเลือดได้เช่นกัน คราบเลือดเป็นอีกหนึ่งคราบที่ขจัดออกยากไม่น้อย แต่เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณเบาแรงและประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว เพียงคุณนำน้ำส้มสายชูป้ายไปที่คราบเลือด และทิ้งไว้ ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือใช้น้ำแข็งถูบริเวณที่เป็นคราบไปมาหรือวางทิ้งไว้ให้น้ำแข็งละลาย จะเห็นได้ว่าคราบเลือดที่เปื้อนจะค่อย ๆ จางหายไป
3. คราบปัสสาวะ
หนึ่งในคราบที่เป็นปัญหาการทำความสะอาดยอดนิยม ยิ่งบ้านไหนมีลูกเล็กหรือผู้สูงอายุ คราบปัสสาวะคือความเหน็ดเหนื่อยของคุณเลยก็ว่าได้ และคราบเหล่านี้ปล่อยไว้นานรอจนถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ไม่ได้ เพราะยิ่งปล่อยไว้ยิ่งส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์กระจายไปทั่วห้อง แต่นับจากวันนี้คุณไม่จำเป็นต้องยกที่นอนออกไปตากแดดทุกครั้งเหมือนแต่ก่อน เพียงแค่นำผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดจนรอยจางหายไป จากนั้นนำผ้าแห้งมาเช็ดซ้ำเพื่อซับความชื้นจากน้ำออกไปให้หมด ซึ่งหากไม่ต้องการให้มีกลิ่นปัสสาวะหลงเหลือ คุณจำเป็นต้องทำความสะอาดทันทีหลังปัสสาวะรดที่นอน และเมื่อถึงวันหยุดให้นำไปตากแดดหรือผึ่งลม เพื่อลดความอับชื้นแถมยังช่วยฆ่าเชื้อโรคอีกด้วย
4. รอยหมึกปากกา
เผลอทำปากกาหรือสีเมจิเปื้อนบนที่นอน หรือบางบ้านอาจถูกลูกน้อยมาสร้างชั่วโมงศิลปะวาดภาพตามจินตนาการจนเป็นรอยเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว แต่แนะนำให้ลองใช้วิธีนี้ดู นำน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำผ้าไปชุบพอหมาดเช็ดอย่างเบามือ หรือใครจะนำไปใส่ในกระบอกฉีดน้ำแล้วฉีดพ่นตรงบริเวณที่เปื้อนแล้วเช็ดออกก็ได้ หลังจากรอยเริ่มจางให้นำผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดอีกครั้ง ทีนี้คราบปากกา สีเมจิต่าง ๆ ก็จะจางหายไป ได้ที่นอนสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง
5. ที่นอนยางพาราห้ามตากแดด
เคล็ดลับสุดท้าย สำหรับผู้ที่ใช้ที่นอนยางพาราโดยเฉพาะ หลังจากทำความสะอาดตาม 4 ข้อที่กล่าวมาแล้ว หากที่นอนของคุณเป็นที่นอนยางพารา ต้องระวังอย่าทำความสะอาดด้วยวิธีตากแดด แต่ให้ใช้วิธีผึ่งลม หรือตากในที่โล่งแจ้งไม่โดนแดดแทน เพราะความร้อนของแสงแดดจะทำให้คุณสมบัติของยางพาราเสื่อมสภาพ ที่นอนจะพังเร็วกว่าอายุการใช้งานปกติ
สรุป
ตำราทำความสะอาดที่นอนที่เรานำมาฝาก จะช่วยให้คุณประหยัดเวลา และไม่ต้องออกแรงทำความสะอาดที่นอนจนเหนื่อยเหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งสามารถใช้กับที่นอนได้ทุกประเภทไม่ว่าจะที่นอนยางพารา เมมโมรี่โฟม หรือที่นอนสปริงที่นอนพ็อกเก็ตสปริง มีเวลาเหลือทำงานบ้านอื่น ๆ ได้อีกเยอะ
1. คราบของกินต่าง ๆ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่ บิดพอหมาดเช็ดไปมาเบา ๆ คราบก็จะค่อย ๆ จางหายไป
2. คราบเลือด นำน้ำส้มสายชูป้ายไปตรงบริเวณที่เป็นคราบ ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือใช้น้ำแข็งถูไปมาบนคราบจนน้ำแข็งละลาย คราบจะจางหายไป
3. คราบปัสสาวะ ทำความสะอาดง่าย แต่ต้องทำทันทีหลังปัสสาวะ โดยให้ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดออกจนกว่ารอยจะจาง และนำผ้าแห้งมาเช็ดซ้ำอีกครั้งจนที่นอนเริ่มแห้ง
4. รอยหมึกปากกา แก้ได้ด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่า นำผ้าไปชุบแล้วเช็ดเบา ๆ ไปมาที่รอยเปื้อน จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดออก รอยหมึกจะหายไป
5. ที่นอนยางพาราห้ามนำตากแดด เพราะจะทำให้ยางพาราเสื่อมสภาพและพังเร็วขึ้นกว่าเดิม